วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ประชุมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกงสุล,กงสุลกิตติมศักดิ์กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจังหวัดภูเก็ต


จังหวัดภูเก็ตจัดประชุมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกงสุล,กงสุลกิตติมศักดิ์กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2 / 2553


ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่เมื่อเวลาประมาณ 14.00น. วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกงสุล,กงสุลกิตติมศักดิ์กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2 / 2553โดยมีนายธนวัฒน์ ศิริกุล หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวภูเก็ต ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลและนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตร่วมชี้แจงนอกจากนี้มีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด,ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง,ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตท่าอากาศยาน,ขนส่งจังหวัด , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต,ประธานหอการค้าจังหวัดและนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้มาร่วมด้วยในส่วนกงสุล,กงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทนประเทศต่างๆ 17 ชาติที่มีที่ทำการอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตประกอบไปด้วยประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย,สาธารณรัฐเชก,เดนมาร์ก,เอสโตเนีย, ฟินแลนด์ , ฝรั่งเศส,สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ,อิตาลี , สาธารณรัฐเกาหลี ,เนเธอร์แลนด์, นอรเวย์ , รัสเซีย , สเปน ,สวีเดนและประเทศสหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ


สำหรับการประชุมกระชับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เป็นการประชุมต่อเนื่องมาจากการประชุมครั้งแรกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ที่เป็นผลมาจากการหารือกับเอกอัครราชทูตประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย ในเดือนตุลาคม 2552 และในครั้งนั้น ปรากฏว่านายDirk Nauman กงสุลกิตติมศักดิ์ แห่งประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำจังหวัดภูเก็ตทำหนังสือถึงนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในนามของกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ ที่ขอบคุณและมีความประทับใจที่การประชุม มีการพูดอย่างตรงไปตรงมาและมีการเล่าสู่ปัญหาต่างๆ อย่างเปิดเผย ทั้งเรื่องในปัจจุบันและนโยบายหรือแผนงานของจังหวัดภูเก็ตที่จะดำเนินการในอนาคต นับว่า เป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันรวมถึงนักท่องเที่ยวและชาวต่างประเทศที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต และการประชุมครั้งล่าสุดนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันและติดตามความคืบหน้า ในการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่,รถบริการสาธารณะหรือรถลีมูซีน,รถสี่ล้อรับจ้างหรือรถตุ๊กตุ๊ก รวมทั้งการติดตาม รายงานผลการจับกุม การเสียชีวิตและอุบัติเหตุของนักท่องเที่ยวชาติต่างๆด้วย


นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ตมีแนวคิดในการจัดประชุมปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ตลอดถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในฐานะการเป็นเจ้าบ้านที่ดีและการประชุมในครั้งแรกสามารถแก้ไขปัญหาได้หลายเรื่อง รวมถึงยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และการประชุมครั้งที่ 2 นอกจากมีการติดตามเรื่องเดิมแล้ว จังหวัดยังมีโอกาสทำความเข้าใจเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศและการแก้ไขปัญหาต่างๆที่กงสุลเสนอมา และเพื่อให้การติดต่อประสานงานกับทุกฝ่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ สำนักงานจังหวัดจะรับผิดชอบจัดทำสมุดโทรศัพท์ที่บรรจุรายชื่อและที่อยู่ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ ตลอดจนอีเมลของกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ตำรวจภูธร ,ตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยว


ทางด้านนายธนวัฒน์ ศิริกุล หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวภูเก็ตกล่าวว่าจากการประชุมหารือ และชี้แจงข้อมูลถึงสถานการณ์ทางด้านการเมือง กงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทนประเทศต่างๆที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ มีความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นและรับว่าจะไปชี้แจงข้อมูลให้นักท่องเที่ยวทราบว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัย น่าท่องเที่ยว ส่วนปัญหาที่ทุกประเทศ เป็นห่วงกังวลได้แก่เรื่องการจัดระเบียบจราจร ปัญหาอุบัติเหตุ ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบราคาค่าโดยสารรถสี่ล้อรับจ้างหรือรถตุ๊กตุ๊ก,รถบริการสาธารณะหรือรถลีมูซีนและรถแท็กซี่ และสำนักงานขนส่งจังหวัดและทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามชี้แจงทำความเข้าใจและหาแนวทางแก้ปัญหา และทราบว่าผู้ร่วมประชุมมีความพอใจที่จังหวัดภูเก็ตดำเนินการให้


อย่างไรก็ดีตัวแทนกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ แจ้งต่อที่ประชุมว่า อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหรือตำรวจท่องเที่ยว ที่รับผิดชอบในคดีความต่างๆและมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศทั้ง 17 ชาติเข้าไปเกี่ยวข้อง รายงานให้กงสุลทราบอย่างเร่งด่วน และทุกแห่ง มีความสะดวก เพราะมีเจ้าหน้าที่คนไทยปฏิบัติงานร่วมด้วย สำหรับในช่วงที่ผ่านมา จากสถิติข้อมูล มีชาวต่างประเทศ เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญารวม 84 คน ส่วนใหญ่ เป็นคดีเกี่ยวกับการขับรถและเกิดอุบัติเหตุ,เมาสุรา ,ยาเสพติด ,ลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย เสียชีวิต 33 คน ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ ,โรคส่วนตัวและบางส่วนเกิดจากการทำร้ายร่างกายและฆาตกรรม ในกรณีที่ชาวต่างประ เทศเป็นผู้เสียหาย มีทั้งหมด 20 ราย ส่วนใหญ่เป็นคดีความเกี่ยวกับทรัพย์และถูกทำร้ายร่างกาย #

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น