
ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA ทำให้ การค้าและการส่งออก ขยายตัวเพิ่มขึ้น
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้ประกอบการระดับกลางและขนาดย่อมของประเทศสหรัฐอเมริกาส่วนหนึ่งเริ่มมีการถอนตัว ด้วยความไม่แน่ใจในอนาคตของประเทศไทย และเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาเพิ่งได้พบกับตนเองเมื่อกลางวันวันที30 เมษายนนี้ และได้เรียนให้ทราบถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่รัฐบาลยังมีความเชื่อมั่นในรากฐานที่เข้มแข็งของประเทศและพร้อมที่จะดำเนินมาตรการทุกทาง ในการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจและธุรกิจให้กลับคืนมา เมื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 ต้องยอมรับว่า จะมีผลกระทบรุนแรงในเบื้องต้น แต่ว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้นและสามารถที่จะฟื้นฟูในเรื่องของการท่องเที่ยวมาได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 ตั้งแต่เริ่มเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA ปรากฏว่าหลังจากการเปิด เพียง 3เดือน มีมูลค่าการค้าขยายตัวมากถึง 52 เปอร์เซ็นต์ เกินเป้าหมายหรือคิดเป็น 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะการส่งออกนั้น มีการขยายตัวมากถึง 67 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น33เปอร์เซ็นต์ ที่ทำให้อาเซียนกลายเป็นตลาดคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศไทย จึงถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่เป็นข่าวดี และจะพยายามประคับประคองในช่วงไตรมาสที่สองเพราะว่า ผลกระทบของเหตุการณ์บ้านเมือง ต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ แต่ว่ารัฐบาลยังมีความเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถนำความสงบกลับมาได้โดยเร็วและสามารถฟื้นฟูประเทศกลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ววัน
สำหรับการค้ากับกลุ่มอาเซียน ในไตรมาสที่สองนี้คิดว่ามีผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันหรืออยู่ใกล้ รวมทั้งบางประเทศรู้ถึงภูมิหลังและความแข็งแกร่งและรากฐานที่ดีของประเทศไทย ดังนั้นจึงเชื่อว่า จะมีผลกระทบไม่มากนัก แต่ว่าอาจจะไม่เติบโตเท่ากับไตรมาแรกของปีนี้ และต้องรอดูการประเมินอีกทีหนึ่ง
#
#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น