



คณะกรรมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 2หรือ Phuket Film Festival 2010จัดกิจกรรม MEET THE DIRECTORS ที่โครงการเดอะยามูภูเก็ตโดยมี DARNELL MARTINผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “Cadillac Records”มาร่วมด้วย
เมื่อค่ำวันที่8 มิถุนายนนี้เวลา18.00น.ที่คลับเฮาส์และเดอะพาวิลเลียนของโครงการเดอะยามูภูเก็ต บ้านยามู หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตทางคณะกรรมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 2หรือ Phuket Film Festival 2010จัดกิจกรรมมีทเดอะไดเรคเตอร์ส( MEET THE DIRECTORS) โดยมี ดาร์แนลมาร์ติน (DARNELL MARTIN) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องคาร์ดิลแลค เรคคอร์ดส( “Cadillac Records”)มาร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลพร้อมกับพบปะสนทนากับแฟนภาพยนตร์และตัวแทนสื่อมวลชน รวมทั้งตอบข้อซักถามหลังจากที่ชมภาพยนตร์จบลงด้วย โดยมีนายสก็อตต์ โรเซ็นเบิร์ก (SCOTT ROSENBERG) กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเอ็ม ดับบลิว อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้รับผิดชอบจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต เป็นผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์ และนายเอียน เฮนรี่( Ian Henry) เจ้าของกิจการและซีอีโอโครงการเดอะยามูภูเก็ต บริษัทแคมป์เบลล์ เคน ( ประเทศไทย) จำกัดและพนักงานในเครือร่วมต้อนรับและอำนวยความสะดวก ในโอกาสเดียวกันนี้ นายนฤนาท สุภัทรประทีป นายอำเภอถลางพร้อมด้วยคณะให้เกียรติมาร่วมงานด้วย อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีฝนตกหนักและลมพัดกระโชกแรง ผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศยังสนใจมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับภาพยนตร์เรื่องคาร์ดิลแลค เรคคอร์ดสนี้ออกฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551มีความยาว 109 นาทีและดาร์แนล มาร์ติน ผู้กำกับสาวลูกครึ่งแอฟริกัน-อเมริกันทำหน้าที่เป็นทั้งผู้เขียนบทภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์ เพราะเธอมีความสนใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการดนตรีมาโดยตลอดและลงมือศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 6 เดือน ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เมืองนิวเจอร์ซี่และเมืองดนตรีอื่นๆในประเทศสหรัฐอเมริก พร้อมกับเลือกบียองเซ่ โนว์เลส(BEYONCE KNOWLES )และเอเดรียน โบรดี้(ADRIEN BRODY) เป็นดาราแสดงนำ นอกจากนี้ยังมีดาราร่วมแสดงอีกหลายคน คือ เจฟฟรีย์ ไรท์ (JEFFREY WRIGHT) โคลัมบัส ชอร์ท( COLUMBUS SHORT) มอส เดฟ.(MOS DEF.) เซดริก ดิเอ็นเทอร์เทนเนอร์(CEDRIC The ENTERTAINER) และแอมโมน วอล์กเกอร์(AMMONN WALKER)
ทั้งนี้ดาร์แนล มาร์ตินมุ่งหวังและต้องการที่จะถ่ายทอดเรื่องราวในตำนานของผู้คนในวงการดนตรีร็อคแอนด์โรลอเมริกันที่เกิดขึ้นจริง โดยหยิบยกกรณีความเป็นไปของสตูดิโอบันทึกแผ่นเสียงเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อ เชสส์ เรคคอร์ด ( CHESS RECORDS ) ที่ตั้งอยู่ด้านตอนใต้ของเมืองชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ และมีเลียวนาร์ด เชสส์ (LEONARD CHESS) เป็น ผู้รับผิดชอบดูแลและจัดการผลิตหรือบันทึกแผ่นเสียง(Records producer) โดยริเริ่มบันทึกดนตรีบลูส์ร่วมกับศิลปิน มัดดี้ วอลเตอร์ส และลิตเติ้ล วอลเตอร์( MUDDY WALTERS –LITTLE WALTER )ตั้งแต่ปี 2490และสามารถผลักดันดนตรีร็อคแอนด์โรลให้เกิดขึ้นได้ในสมัยนั้นหรือในปี 2498 หรือเป็นช่วงที่ ชัค เบอร์รี่ (CHUCK BERRY ) รุ่งเรืองบนโลกดนตรีเป็นเวลาช้านาน
ในขณะที่เลียวนาร์ด เชสส์ มีความรักและความสนใจหรือชื่นชอบงานดนตรีที่หลากหลาย รวมทั้งเชื่อมั่นว่า สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากศิลปินที่มีแววโดดเด่นใหม่ๆ ไม่ว่า จะเป็นคนประพันธ์เพลงอย่าง วิลลี่ ดิกซั่น(Willie Dixon),โฮว์เล่น วูลฟ์( Howlin’ Wolf )และ เอ็ตต้า เจมส์ (Etta James ) ที่บียองเซ่ โนว์เลส เป็นผู้แสดงบทบาทนี้ นอกจากนี้ เลียวนาร์ด เชสส์ โปรดิวเซอร์ยังพยายามดูแลเหล่าศิลปินในสังกัดอย่างดีให้เหมือนกับทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายนักสำหรับเขา เพราะว่าศิลปินบางรายเสพทั้งสุราและยาเสพติดและใช้ชีวิตหรูหราและสะดวกสบาย หรือวิถีชีวิตคนดนตรีกลุ่มนี้ แม้จะ ตื่นเต้นโลดโผน แต่มีความวุ่นวายปั่นป่วนมาแทรกสลับตลอดเพราะมีทั้งเรื่องเซ็กส์,การใช้ความรุนแรงหรือแม้แต่การเหยียดสีผิว โดยเฉพาะในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับชัค เบอร์รี่ เข้าคุก จึงต้องพยายามปั้นเอ็ตต้า เจมส์มาแทนที่ อย่างไรก็ดีในช่วงปลายปี 1960 ประชาชนเริ่มเลิกชื่นชมงานสร้างสรรค์ดนตรีของเชสส์ เรคคอร์ดเพราะมีศิลปินที่กำลังเริ่มมีชื่อเสียงในยุคนั้นคือ เลวิส เพรสลีย์และศิลปินคนอื่นๆ ดังนั้นในฐานะผู้สร้างห้องบันทึกเสียงนี้ เลียว นาร์ด เชสส์ จึงอำลาวงการไปในที่สุด
สำหรับในช่วงท้ายของการสนทนา ดาร์แนล มาร์ติน ได้แนะนำให้ไปชมภาพยนตร์เรื่องฟรายเดย์ คิลเลอร์( FRIDAY KILLER AT CARGO IN LAGUNA ) ที่ ยุทธเลิศ สิปปภาค คนไทยเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มีกำหนดมาพบปะกับแฟนภาพยนตร์ ในการการฉายรอบปฐมทัศน์ของโลกในวันที่ 13 มิถุนายนนี้เวลา18:00 น.ที่ สเตอโรแลป ภูเก็ต หาดสุรินทร์(SteroLab Phuket - Surin Beach) ซึ่งถือว่าเป็นการปิดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 2 ด้วย
#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น