
คณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร "นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง รุ่นที่1ศึกษาดูงานปัญหาที่ดินและองค์กรปกครองดีเด่นด้านธรรมาภิบาลที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลาประมาณ 10.00น.วันที่ 2 มิถุนายนนี้ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตด้านการบริหารราชการและการพัฒนาพร้อมด้วยคณะร่วมต้อนรับนายปรีชา เลิศกมลมาตร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช.,นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ปปช. ,นายธีระพงษ์ โสดาศรี รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์และคณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร "นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง" หรือ นยปส. รุ่นที่ 1 ที่มีกำหนดการอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจนถึงวันที่ 4 มิถุนายนนี้ โดยเข้าพักและร่วมประชุมที่โรงแรมโนโวเทล ป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตรวมทั้งจะร่วมศึกษาดูงานเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกที่ดินและเข้ารับฟังการบรรยายสรุปกิจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับรางวัลดีเด่นด้านธรรมาภิบาลจาก ปปช.และองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว ที่รัฐบาล มอบรางวัลดีเด่นด้านธรรมาภิบาลด้วย
นายปรีชา เลิศกมลมาตร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช.กล่าวว่าคณะผู้เข้ารับการอบรมมีทั้งหมด 45 คนที่เดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษานอกสถานที่หรือศึกษาสภาพปัญหาจริงและกรณีศึกษาในครั้งนี้ จะเน้นในประเด็นปัญหาเรื่องของการบุกรุกที่ดิน เพราะที่จังหวัดภูเก็ตนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการไต่สวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติอยู่และทาง ปปช.ถือว่าให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากและปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณะ ที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่สมควรให้เอกชนเข้าไปครอบครองได้ ที่มักจะมีปัญหาอยู่ทั่วประเทศ สำหรับที่จังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นจุดหนึ่ง ที่มีปัญหาในลักษณะนี้ ค่อนข้างมากและโดยเฉพาะที่สำคัญคือ จะเน้นเอาเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ หรือภูมิสารสนเทศ (GRS) เอามาใช้ประโยชน์ในเรื่องของการที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ ในการไต่สวนและหาข้อเท็จจริงได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมามีการนำเทคโนโลยีนี้ไปช่วย และสามารถสรุปคดีได้
ในขณะเดียวกันผู้เข้ารับการอบรมสามารถศึกษาในเรื่องนี้และศึกษาสภาพปัญหาจริงที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมกับมองหาลู่ทางเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป เนื่องจากเป็นบุคลากรระดับสูงในหน่วยงานหลายภาคส่วนทั้งที่เป็นภาคราชการ ส่วนใหญ่ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ ที่เป็นไปตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และแน่นอนว่ามีความคาดหวังจากการมียุทธศาสตร์ชาติและเน้นหนักให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม และการจะมีส่วนร่วมได้นั้น ต้องมีการนำเอายุทธศาสตร์ไปขับเคลื่อน โดยอาศัยผู้บริหารองค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนรับรู้และทำความเข้าใจและทราบถึงแนวทางในการดำเนินการ คงจะทำให้ ปปช. มีพันธมิตร หรือมีภาคีเครือข่ายมากขึ้นในการดำเนินการและเป็นพลังสำคัญ ที่สามารถบรรลุเป้าหมายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติได้
ทั้งนี้ยุทธศาสตร์การปราบปรามทุจริตของ ปปช. มีวิสัยทัศน์อย่างชัดเจน ที่อยากให้สังคมไทยมีคุณธรรม จริยธรรมและมีวินัยและทุกฝ่ายมีส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามการทุจริตประสบผลสำเร็จ หากมีคนมาร่วมเป็นจำนวนมาก และลำพัง ปปช. คงไม่สามารถดำเนินการให้ประสบความสำเร็จได้หากดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้ยังมาศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับจังหวัดและระดับตำบล คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการดีเด่นทางด้านหลักธรรมาภิบาล จาก ปปช. เมื่อปี 2552 รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว ที่ได้รับรางวัลดีเด่นทางด้านธรรมาภิบาลจากรัฐบาลเช่นเดียวกัน
#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น