กลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กูและเครือข่ายองค์กรชุมชนชายฝั่ง จ.ภูเก็ตยื่นหนังสือต่อ นายกรัฐมนตรีเพื่อให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน
เช้าวันที่31 กรกฎาคมนี้ที่บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต กลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์ป่าชายเลยบ้านกู้กู ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และเครือข่ายองค์กรชุมชนชายฝั่ง จังหวัดภูเก็ตเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาร่วมประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เร่งรัดกรมที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของนายทุนที่ออกในพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ หมู่ 3 บ้านกู้กู ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตรวมทั้งเรียกร้องให้สั่งการให้กรมธนารักษ์เพิกถอนที่ดินราชพัสดุทับพื้นที่สุสาน หรือที่ฝังศพมอแกน หมู่ 5 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และขอให้กำกับและแก้ไขปัญหาการมีสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัยบนภูเขา
ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู หมู่ที่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นชุมชนที่มีการคัดค้านการบุกรุก ทำลาย เปลี่ยนแปลงสภาพป่าชายเลนซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ คลองบางชีเหล้า – ท่าจีน จากนายทุนเพื่อให้พื้นที่ป่าชายเลนกลับมาเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ปัจจุบันปัญหาการบุกรุกที่ดินของนายทุนบริเวณดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไขแม้ว่าจะมีการร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแล้วก็ตาม ทั้งที่หน่วยงานต่างๆออกมายืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชายเลนจริงไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ใดๆได้ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีการเพิกถอนที่ดินแปลงที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนดังกล่าวโดยด่วน แต่หากท่านไม่เห็นความสำคัญในปัญหาดังกล่าว ชาวชุมชนบ้านกู้กูและเครือข่ายภาคประชาชนที่มีแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงาและจังหวัดอื่นๆในภาคใต้จะออกมาต่อสู้มิให้ผู้ใดมาครอบครองที่ดินป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวไม่ว่าจะมีการใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบในรูปแบบใดก็ตาม
นอกจากนั้นตัวแทนชุมชนมอแกนบ้านแหลมหลา – บ้านเหนือ บ้านหินลูกเดียว บ้านท่าฉัตรไชย ได้ยื่นหนังสือให้รัฐบาลสั่งการให้กรมธนารักษ์เพิกถอนที่ดินราชพัสดุทับพื้นที่สุสานที่ฝังศพ ชาวมอแกน หมู่ 5 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 29-3-54ไร่ และให้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ป่าช้าตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตรงกับความเห็นของนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
ขณะที่เครือข่ายองค์กรชุมชนชายฝั่งจ.ภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือให้รัฐบาลมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมและป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ กรณีปัญหาการมีสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัยบนภูเขา และลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องที่ปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่และไม่บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และเป็นธรรม นอกจากนี้ตัวแทนชาวบ้านยังได้ร้องเรียนว่าปัญหาการบุกรุกป่าไม้ที่จังหวัดพังงาได้มีการใช้อำนาจอิทธิพลของเจ้าหน้าที่รัฐไปในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น กรณีผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะยาว ที่เป็นญาติกับกลุ่มทุนที่ฟ้องร้องดำเนินคดีชาวบ้านที่ออกมาปกป้องทรัพยากร นอกจากนี้ยังมีอัยการคดีพิเศษคนจังหวัดพังงาที่คอยวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษฟ้องร้องนายทุนที่ครอบครองพื้นที่ป่าโดยมิชอบ เป็นต้น
นอกจากนี้กลุ่มสหภาพแรงงานเครือโรงแรมเชอราตันแกรนด์ลากูน่าภูเก็ต ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีพนักงาน 57 คน ถูกเลิกจ้างและตำรวจดำเนินคดี 5 ข้อหา โดยขอให้กลับเข้าทำงานและรับค่าทดแทนเลิกจ้างอย่างเป็นธรรมและกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ตได้ยื่นหนังสือ ระบุว่าขอให้ดูแลเรื่องการจัดเก็บค่าเช่าแผงและค่าเซ้งที่แพงเกินควร รวมถึงการก่อสร้างไม่มีมาตรฐาน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องไว้ และกล่าวว่า กรณีของที่ดินบ้านกู้กูนั้นได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบและแก้ไขปัญหา ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น ได้รับเรื่องไว้และจะสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
#
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น