วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ททท.สำนักงานภูเก็ตจัดชวนกันเที่ยวใต้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ในเดือนกันยายน











การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยฝ่ายภูมิภาคภาคใต้กำหนดจัดงาน“ชวนกันเที่ยวใต้”ที่ห้างสรรพ สินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่เดือนกันยายนนี้ หลังจากสำนักงานภูเก็ต ประสบความสำเร็จจัดโรดโชว์มาแล้ว
นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่าการเดินทางไปทำโรดโชว์ส่งเสริมการขายท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พังงา และนายอาซิ่น อร่ามเมธาพงศา ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยการสนับสนุนของสายการบินไทยแอร์เอเชียเดินทางไปจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายท่องเที่ยว ที่โรงแรมรติล้านนา อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน เพื่อที่จะนำเสนอและขายสินค้าทางการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปางและจังหวัดเชียงรายรับทราบ เพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคกันมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับจังหวัดเชียงใหม่สะดวกและรวดเร็วจากการที่สายการบินไทยแอร์เอเชียเปิดบริการบินตรงในเส้นทางภูเก็ต-เชียงใหม่ วันละ 2 เที่ยวบิน เป็นประจำทุกวัน
ทั้งนี้การจัดโรดโชว์ในครั้งนี้มีผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ร่วมเดินทางไปส่งเสริมการขายทั้งสิ้น 25 รายรวมทั้งตัวแทนสื่อมวลชนอีก 2 คน ในขณะที่ผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมมากถึง 100-200 ราย ตลอดจนได้รับความสนใจจากกลุ่มสื่อมวลชนต่างๆ เป็นจำนวนมากด้วย ที่แสดงให้เห็นว่า คนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงกันมาก จึงส่งผลทำให้การเดินทางไปโรดโชว์ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และล่าสุดทราบจากผู้ประกอบการที่เดินทางไปทำโรดโชว์ขณะนี้เริ่มมีการติดต่อจากผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือเข้ามาบ้างแล้ว
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นการจัดจัดโรดโชว์ที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้กลุ่มผู้ประกอบ การโรงแรมและการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตยังมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติดอยอินท นนท์ อำเภอจอมทอง วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ สังเกตการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่บริเวณถนนคนเดินหรือวอล์ก กิ้งสตรีท ที่บริเวณย่านหัตถกรรมเครื่องเงินและเครื่องเขิน ถนนวัวลาย ระหว่างประตูเชียงใหม่ ประตูหายยาถึงประตูสวนปรุง รวมทั้งศูนย์หัตถกรรมบ้านถวาย อำเภอหางดงตลอด จนเยี่ยมชมกิจการของโรงแรมดาราเทวีแมนดาริน โอเรียนเตล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ด้วย
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่าหลังจากที่ผู้ประกอบการทั้งสองภูมิภาคแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการท่องเที่ยวกันแล้ว ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยฝ่ายภูมิภาคภาคใต้ กำหนดจะจัดงาน “ชวนกันเที่ยวใต้”ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำสินค้าทางการท่องเที่ยวของภาคใต้ทั้งหมดไปนำเสนอขายให้กับชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงโดยการนำเสนอแพ็กเกจพิเศษๆเพื่อดึงคนจากภาคเหนือให้เดินทาง มาท่องเที่ยวในภาคใต้ และในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ตจะนำผู้ประกอบ การภูเก็ตและพังงาไปร่วมงานนี้ด้วยเช่นเดียวกันและนอกจากการดึงคนจากภาคเหนือมาจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงแล้วทางจังหวัดภูเก็ต ยังมีโครงการที่จะดึงคนจากภาคตะวันออก เฉียงเหนือเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยมีกำหนดการจะเดินทางไปโรดโชว์ส่งเสริมการขาย ที่จังหวัดอุดรธานีในเดือนกรกฎาคมนี้ และจะเดินทางต่อไปยังนครเวียงจันทน์ ประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวด้วย เพราะในปัจจุบัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดบริการเที่ยวบินตรงภูเก็ต – อุดรธานีทุกวันเหมือนกัน
#

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กลุ่มผู้ประกอบการด้านซื้อขายเรือยอช์ตเพื่อการท่องเที่ยว ในงาน Asia Boating Award 2010 ที่ฮ่องกง โหวตเลือกภูเก็ตเป็น Best Asian Maritime Capital 2010


นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับรางวัล “Best Asian Maritime Capital” จากงาน Asia Boating Award 2010 ที่จัดขึ้นที่ฮ่องกง โดย ASIA-PACIFIC BOATING / CHINA BOATING Blu Inc Media ที่เป็นบริษัทที่จัดงาน Boat Show ทั่วโลกจัดขึ้น ภายใต้ชื่องาน Hong Kong Gold Coast Boat Show
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เป็นการจัดงานครั้งแรกในฮ่องกงโดยทางผู้จัดงานเชิญผู้ประกอบการด้านซื้อขายเรือยอช์ตเพื่อการท่องเที่ยว เข้าร่วมงานประมาณ300 ราย และเปิดให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานร่วมโหวต ปรากฏว่ากลุ่มผู้ประกอบการได้โหวตให้จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทยเป็น “Best Asian Maritime Capital 2010 ” หรือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางเรือที่ดีที่สุดในเอเชีย และประเทศไทยมีคู่แข่งที่สำคัญ คือ ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และประเทศอิตาลี
นอกจากนี้ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภูเก็ต กล่าวด้วยว่า การที่จังหวัดภูเก็ตได้รับรางวัล “Best Asian Maritime Capital” เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทางเรือที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยเรือยอช์ต และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีสถานที่จอดเรือยอช์ตที่มีศักยภาพ มีความพร้อมในเรื่องของสิ่งอำนวยสะดวก ทั้งที่จอดเรือและสถานที่ซ่อมเรือ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยทางเรือเข้ามาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก .ในขณะเดียวกัน ยังมีการจัดกิจกรรมทางเรืออย่างต่อเนื่อง เช่น การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงสคัพ รีกัตต้า เป็นประจำทุกปี โดยมีนักแล่นใบเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก และในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการแข่งขันเรือใบที่ยิ่งใหญ่อีกรายการหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตมีวิสัยทัศน์คือ "ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเอกลักษณ์วัฒนธรรม และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน" และในปัจจุบัน มีนักธุรกิจให้ความสนใจลงทุนก่อสร้างมารีน่าหรือท่าจอดเรือยอช์ตและสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ตหลายแห่งคือยอรช์ต เฮเวน มารีน่า ที่สามารถรองรับเรือได้ประมาณ 168 ลำ ,รอยัล ภูเก็ต มารีน่ารองรับเรือได้ประมาณ 150 ลำ , โบ๊ทลากูน รองรับเรือได้ 283 ลำ หรือแยกเป็นบนบก 116 ลำ และในน้ำอีก 167 ลำ ,อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า รองรับเรือได้ 200 ลำ
ในขณะเดียวกัน มีความพยายามขออนุญาตก่อสร้างมารีน่าที่บริเวณแหลมยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง แต่มีกลุ่มนักอนุรักษ์และประชาชนในพื้นที่คัดค้าน ในขณะนี้ เจ้าของโครงการเดอะยามู ยังไม่ได้ดำเนินการต่อ นอกจากนี้ ยังมี ท่าเรืออ่าวฉลอง ที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดวางทุนผูกเรือยอช์ตและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และสามารถรองรับเรือได้จำนวน 100 ลำ อย่างไรก็ดี เจ้าของเรือยอช์ต บางส่วน เลือกจอดทอดสมอที่บริเวณอ่าวในหาน ตลอดจนอ่าวเขาขาด ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ตอีกส่วนหนึ่ง

#

THE AWFUL RAPE GANGSTER IN PHUKET


ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตสามารถจับกุมแก๊งวัยรุ่น 3 คนใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าและมีดชิงทรัพย์ผู้หญิงก่อนรุมโทรม


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 มิถุนายนนี้ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วย พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และคณะร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายนพพล หรือ เบลล์ เกิดผล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายชัยวุฒิ หรือ บอย เปล่งศรี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ถนนสุรินทร์ ตำบลตลาดใหญ่ ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะและร่วมกันโทรมหญิง นอกจากนี้ยังจับกุมนายวิทวัส หรือ ตี๋ แซ่นาน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 461/5 ถนนภูเก็ตในข้อหารับของโจร พร้อมยึดของกลาง ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน วธบ-51 กรุงเทพมหานคร เครื่องช็อตไฟฟ้า ขนาด 1,800 กิโลโวลท์ จำนวน 1 อัน กระเป๋าสตรี จำนวน 8 ใบ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และตั๋วจำนำโทรศัพท์มือถืออีก 2 ใบ
ทั้งนี้จากการสอบสวน พบว่าแก๊งคนร้ายวัยรุ่นรายนี้ ชิงทรัพย์โดยใช้มีดและเครื่องช็อตไฟฟ้าทำร้ายเจ้าทรัพย์แล้วลงมือโทรม โดยในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่สายตรวจ ในพื้นที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่า มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อเหตุชิงทรัพย์จึงได้ตั้งจุดสกัดบริเวณหมู่บ้านพร้อมพันธ์ จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยขับขี่ผ่านมาโดยมีนายนพพล หรือ เบลล์ เกิดผล เป็นผู้ขับขี่ และนายชัยวุฒิ หรือ บอย เปล่งศรี เป็นผู้ซ้อนท้าย เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถปรากฏว่า กลับขับขี่.ฝ่าด่านจนกระทั่งถูกตำรวจไล่ติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
พนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปขยายผล จนยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ ร่วมกันทำอนาจารและร่วมกันโทรมหญิง ในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มาหลายครั้ง โดยจะตระเวนขับขี่ถจักรยานยนต์ เพื่อมองหาเหยื่อที่เป็นผู้หญิงเป็นหลัก เมื่อสบโอกาสก็จะขับขี่รถปาดหน้าและใช้อาวุธมีด เครื่องช็อตไฟฟ้าข่มขู่ให้ส่งมอบทรัพย์สินหลังจากนั้นจะกระทำการอนาจารเหยื่อโดยการจับหน้าอก หอมแก้ม หรือบางราย บังคับพาไปข่มขืน และเมื่อนำพยานมาชี้ตัวและตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดพบว่าผู้ต้องหา เคยก่อคดีในช่วง 2 เดือน มากถึง 6 คดีแล้ว สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อเวลา ประมาณ05.30 น.วันที่ 12 มิถุนายนนี้ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์และโทรมหญิง เหตุเกิดที่หน้าร้านไทนี่ คอฟฟี่ ถนนเทพกระษัตรี และนำผู้เคราะห์ร้ายไปโทรมที่ทางขึ้นเขาจุดชมวิวเขาขาด ตำบลวิชิต ส่วนทรัพย์สินจำพวกโทรศัพท์มือถือต่างๆ ได้นำไปให้นายวิทวัสหรือ ตี๋ แซ่นานไปขายและจำนำตามร้านขายโทรศัพท์มือถือ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยึดเป็นหลักฐานสำคัญที่มัดตัวจนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

#

COCAINE AND United Arab Emirates TOURIST IN PHUKET


ชุดจับกุมสถานีตำรวจภูธรฉลองสามารถจับกุม นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ มีโคเคนไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ


เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 17 มิถุนายนนี้ ร.ต.ท.เชียรชัย ดวงสุวรรณ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นำตัวนายซาลิม ซูรัวร์ คามิส ซูรัวร์ คามิส( SALIM SUROOR KHAMIS SUROOR KHAMIS ) ผู้ต้องหา อายุ 23 ปี สัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ มาสอบสวนหลังจาก พ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ สารวัตรสืบสวนสอบสวนและชุดจับกุมจับกุมที่บริเวณด่านตรวจ ถนนปฏัก ใกล้โรงแรมรามาด้า ตำบลกระน
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้อง 107 โรงแรมปาล์มวิลเลจ ตำบลกะรน ก่อนเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังตั้งด่านตรวจอยู่ที่บริเวณใกล้โรงแรมรามาด้า เห็นผู้ต้องหานั่งอยู่ในรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อซาบารุ หมายเลขทะเบียน พค-3592 กรุงเทพมหานคร โดยมีชายไทยเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้น ปรากฏว่าพบโคเคนอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบดึงเปิดกดเปิด น้ำหนัก 0.6 กรัม อยู่ในกระเป๋าสะพาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าซื้อโคเคนมาจริง โดยซื้อมาจากชายไทยไว้ผมลักษณะทรงเร็กเก้ ที่ฟรีด้อมบาร์ ในราคา 3,000 บาท เพื่อนำไปเสพ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหามีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (โคเคน) มีไว้เพื่อเสพต่อไป

#

From Roy Fest To Phuket Music Festival

พร้อมจัดงานภูเก็ต มิวสิค เฟสติวัล หรือต่อยอดมาจากการจัดงาน หรอยเฟสต์ที่บริเวณชายหาดกะรนวันที่ 25-26 มิถุนายนนี้
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต รังสรรค์พลังแห่งดนตรี เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงของภาคใต้ให้คึกคัก ในมหกรรมดนตรีนานาชาติที่ยิ่งใหญ่หรือภูเก็ต มิวสิค เฟสติวัล( “Phuket Music Festival) ที่บริเวณชายหาดกะรน อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต ในวันศุกร์ที่ 25-26 มิถุนายนนี้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไปและการเข้าร่วมชมงานครั้งนี้ไม่มีการเก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด
การจัดงานภูเก็ต มิวสิค เฟสติวัล มีการรวบรวมศิลปิน ดีเจ ชื่อก้องทั้งชาวไทยและต่างประเทศ คือDJs Yoji ดีเจชาวญี่ปุ่น, Angnelli & Nelson , DJs Activa ดีเจชาวอังกฤษ,DJs B ดีเจชาวสิงคโปร์ และศิลปินนักร้องชั้นนำของเมืองไทย 4GZM :: Fourgusm Live Band ประกอบไปด้วยฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน อู๋ ธรรพ์ณพร ปาลกะวงษ์ ณ อยุธยา เดียร์ อะแคปเปลล่าเซเว่น และตาร์ มิสเตอร์ทีม ทะโมน หรือReggae Ska Thailand , โจแฟกซ์ Joe Fax , บูดดา เบลสส์ Buddha Bless จ๊อบทู ดู มหาจำเริญ ร่วมด้วย ดีเจมือฉมังชาวไทย อีก 2 8น ที่จะมาดวลความสามารถกับดีเจชาวต่างชาติ ได้แก่ DJs Spyda Monkey และ DJs Thanathorn พิเศษสุด ค่ายสิงห์-บุญรอดบริว เวอรี่ นำโดยวุฒินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่นอกจากจะให้การสนับสนุนการจัดงานแล้วยัง นำวงดนตรีร็อคชั้นนำอย่าง ซิลลี่ฟูล และ ซีล มารวมวงกันเฉพาะกิจครั้งแรกภายใต้ชื่อ ซิลลี่ซีล ให้เป็นปรากฏการณ์ใหม่บนเวทีคอนเสิร์ตอีกด้วย มหกรรมทางดนตรีครั้งนี้จะเกิดขึ้นยิ่งใหญ่ บนเวทีคอนเสิร์ตแนบชิดติดทะเล ในรูปแบบ “บีช แดนซ์ ปาร์ตี้” ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมอวดสีสันทางดนตรีอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า มหกรรมดนตรี ภูเก็ต มิวสิค เฟสติวัลเป็นการสานต่อความสำเร็จของการจัดงาน เทศกาลดนตรี หรอยเฟสต์ ที่หาดกะรน จ.ภูเก็ต ในปีที่ผ่านมา โดยปีนี้ได้นำรูปแบบการจัดงานที่เป็นสีสันและกลิ่นอายทางดนตรีที่หลาก หลาย มารวมตัวกันภายในงานอย่างยิ่งใหญ่คือแดนซ์ ป๊อป ฮิปฮอป เร็กเก้ สกา บอสซา โดยมีไฮไลท์ ที่จะสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับผู้ที่ชื่นชอบการแดนซ์ ด้วย ดีเจฝีมือเยี่ยมจากนานาชาติที่มีชื่อเสียงด้านการเปิดแผ่นทั้งจากยุโรปและเอเชีย บินตรงร่วมสร้างสีสันให้สนุกสนานสุดเหวี่ยงในงานนี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งงานที่จะได้รับการกล่าวขานไม่รู้ลืม ของการสร้างตำนานการเปิดพื้นหาดทรายให้เป็นฟลอร์เต้นรำที่สนุกสนาน ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
มหกรรมดนตรี ภูเก็ต มิวสิค เฟสติวัลที่จัดขึ้นครั้งนี้จะเป็นฟรีคอนเสิร์ตริมหาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุดอีกงานหนึ่งของภาคใต้ ที่มีความแตกต่างจากทุกคอนเสิร์ตที่เคยจัดมาในเมืองไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีความเชื่อมั่นว่านอกจากความงดงามทางธรรมชาติที่ทั่วโลกกล่าวขานและยกย่อง ให้ภูเก็ตเป็นอัญมณีที่เลอค่าทางท้องทะเลแล้ว วันนี้ความงดงามของศิลปะทางดนตรีจะเป็นสื่อกลางที่จะเชื่อมโยงความรักสู่การสร้างภาพ ลักษณ์ที่ดี ที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยว ทะเลภาคใต้ของเราอีกครั้ง อันจะนำไปสู่การขยายฐานของกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามามากขึ้น ส่งผลรวมไปถึงการท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงได้คึกคักเพิ่มขึ้นอีกด้วยขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทะเลงามทางภาคใต้ ร่วมสัมผัสความสนุกสนานทางดนตรีที่สมบูรณ์แบบที่สุด บนเวทีขนาดใหญ่ แสงสีเสียงสุดอลังการ ในบรรยากาศงานปาร์ตี้สนุกสนาน เป็นกันเอง แบบแนบชิดติดทะเล ท่ามกลางระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น
#

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดแพ็กเกจ Amazing Golf Paradise 2010








เมื่อเวลาประมาณ 15.00น.วันที่15 มิถุนายนนี้ ที่คลับเฮ้าส์ สนามกอล์ฟ เรด เมาท์เท่น อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต พร้อมด้วยคณะร่วมกันแถลงข่าวโครงการ Amazing Golf Paradise 2010 ที่กำหนดจัดโครงการขึ้นในระหว่างวันที่16 มิถุนายน ถึง16 สิงหาคมนี้ ที่สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับและสนามกอล์ฟเรดเมาท์เท่นกอล์ฟคลับ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีนางสาวเพลินพิศ โกศลยุทธสาร รองผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการขาย บริษัทการบินกรุงเทพฯ จำกัด นายอรรณพ ทินนาม ผู้จัดการทั่วไปบริษัทบางกอกแทรเวลคลับ จำกัด นายวัชร จารุอริยานนท์ นายกสมาคมกอล์ฟภูเก็ต นายชาญวุฒิ หงษ์หยก ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟ ภูเก็ตคันทรีคลับ นายพงษ์ศักดิ์ ศัพทแสน รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) สนามกอล์ฟ เรดเมาท์เท่น กอล์ฟคลับ มาร่วมด้วย

นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย สำนักงานภูเก็ต และสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สมาคมกอล์ฟภูเก็ต สมาคมผู้บริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก ร่วมกันจัดโครงการ Amazing Golf Paradise 2010 ขึ้นเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของกลุ่มคนไทยและชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทย กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ภาคใต้และภาคตะวันออก นอกจากนี้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์สนามกอล์ฟและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ที่มีศักยภาพระดับนานาชาติให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้น ตลอดจนขยายตลาดนักท่องเที่ยวที่สนใจการเล่นกอล์ฟ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในราคาพิเศษได้ทั้งครอบครัว


ทั้งนี้โครงการ Amazing Golf Paradise 2010 เป็นการจัด Golf Package ในราคาพิเศษ และคุ้มค่า ที่นักท่องเที่ยว นักกอล์ฟ สามารถเล่นกอล์ฟในสนามกอล์ฟที่มีมาตรฐานและสวยงามทั้งในจังหวัดภูเก็ตและภาคตะวันออก ในขณะที่ผู้ติดตามสามารถสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลาย เช่นหาดทราย ชายทะเล การดำน้ำชมปะการังและฝูงปลา ตลอดจนพักผ่อนในที่พักหลากสไตล์ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในเส้นทาง พัทยา หรืออู่ตะเภา – ภูเก็ต หรือภูเก็ต-พัทยา หรืออู่ตะเภา ในแบบแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน ราคาเริ่มต้น 16,800 บาทต่อคน


สำหรับ Golf Package นี้เป็นราคาที่รวมบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ค่าภาษีสนามบินและค่าประกันภัยการเดินทาง รวมทั้งค่า Green Fee 18 หลุม ที่สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับและสนามกอล์ฟเรดเมาท์เท่นกอล์ฟคลับ โรงแรมที่พัก 2 คืนพร้อมอาหารเช้า รถรับ-ส่งระหว่างสนามบิน-ที่พัก-สนามกอล์ฟ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ถนนถลาง หมายเลขโทรศัพท์ 076 -211036 และ 212213 หรือบริษัทบางกอกแทรเวลคลับ จำกัด(Bangkok Travel Club Ltd.) หมายเลขโทรศัพท์ 02-2558966 สายด่วน 1771 กด 3

#

นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังระบุว่ามีผู้ลงทะเบียนในทำเนียบ 100 กว่า คน แต่ทำงานภาพยนตร์ต่อเนื่องเพียง 10กว่าคน



นายนนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังกล่าวต่อกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาที่เข้าร่วมการอบรมAnimation Youth Festival Asia 2010 ตอนหนึ่งว่า ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการทำภาพยนตร์ตั้งแต่ต้น แต่มีความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์มาตั้งแต่สมัยที่กำลังเรียนในมหาวิทยาลัยศิลปากร และมีโอกาสไปร่วมสังเกตการณ์ในโครงการถ่ายทำสารคดีกับเพื่อนรุ่นพี่จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ที่เลือกสถานที่ถ่ายทำในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเวลา 5 วันดังนั้น จึงเริ่มซึมซับข้อมูลเกี่ยวกับการเขียนบทภาพยนตร์ การถ่ายทำ หรือการจัดแสง ในเวลา ต่อมา จึง พยายามลงชื่อกลุ่มนักศึกษาประมาณ 100 คน เพื่อเรียกร้อง ให้มหาวิทยาลัย เปิดหลักสูตรด้านภาพยนตร์ได้สำเร็จ หลังจากนั้น เรียนอยู่ปี 3จึงมีโอกาสศึกษาความรู้เพิ่มเติม และเริ่มไปมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์มิวสิควีดิโออย่างต่อเนื่อง

นายนนทรีย์ นิมิบุตร กล่าวว่าตนเอง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ แต่สำหรับในปัจจุบันนั้น ประกอบอาชีพทางด้านการโฆษณา หรือ ละคร เป็นหลัก ส่วนภาพยนตร์ เรียกได้ว่า เป็นงานอดิเรก ที่ทำด้วยความรัก เพราะเมื่อทำงานหลักมาณ 4ปี และสามารถเก็บรวบรวมเงินได้ครบถ้วนแล้ว จึงนำมาใช้ เป็นงบประมาณทำภาพยนตร์เพราะต้องลงทุนมหาศาลและผู้กำกับภาพยนตร์ในเมืองไทย ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ที่นับตัวได้ว่า มีฐานะทางการเงิน มีไม่เกิน 3-5 คนเท่านั้น นอกจากนี้ จากทำเนียบผู้กำกับภาพยนตร์ ทั้งหมด ที่มีการลงทะเบียนเอาไว้ จำนวน 100 กว่า คน แต่ ที่ มีงานภาพยนตร์ทำอย่างต่อเนื่อง มีประมาณ 10 กว่าคนเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับช่างศิลป์ และในระหว่างที่เรียนในมหาวิทยาลัย ต้อง อาศัยเพื่อนและอาจารย์ บอกให้ทราบเกี่ยวกับ การสอบ การลงทะเบียน เพราะบอกกับตัวเอง ว่ายูเรกา นี่คือการค้นพบตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องราวของภาพยนตร์ เรื่องของ บทหรือมุมกล้อง เป็นสิ่งที่มีความสนใจ และในช่วงที่เริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์นั้น เพราะต้องการอยากได้ความรู้และประสบการณ์ ที่ไม่มีสอนในห้องเรียน ต้องไปชงกาแฟให้บุคคลที่อยู่ในแวดวงภาพยนตร์ และใช้เวลาในห้องตัดต่อภาพยนตร์นานเป็นนับปี เพราะฉะนั้นแล้ว บรรดา นักเรียน นักศึกษา ที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ ลองมองดูตนเองว่า มีความพร้อมมากน้อยเพียงใด ในการเข้าสู่วงการ การกำกับภาพยนตร์ และยืนยันว่า ภาพยนตร์เรื่องแรก เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะ จะสามารถบ่งบอกว่า เรา จะสามารถแจ้งเกิดได้หรือไม่ โดยภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ สามารถตอบโจทย์ คำถาม ในประโยค 1 ประโยค ได้หรือไม่

การทำภาพยนตร์ของตนเอง เป็นการทำตามความฝัน อย่างภาพยนตร์เรื่อง จันดารา ที่สร้างในปี 2542และฉายในปี 2544 นั้น มีจุดเริ่มต้นมาจาก การรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านปัญหาสังคมในช่วงดังกล่าว ทำนองที่ว่ากลุ่มเยาวชนมีเพศสัมพันธ์ และท้องก่อนวัยอันสมควรรวมทั้ง ปัญหาครอบครัวต่างๆ จึงตัดสิน ใจค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม ไปพบแพทย์ อ่านหนังสือในห้องสมุด และ ในที่สุด ไปพบหนังสือ จันดารา ของ อุษณา เพลิงธรรม หรือประมูล อุณหธูป ที่สามารถตอบคำถามถึงปัญหาสังคม ที่เป็นอยู่ ได้อย่างชัดเจน




นายนนทรีย์กล่าวว่าบทภาพยนตร์เรื่อง จันดารา มาจากหนังสือ หากผู้กำกับ 10 คน หยิบ มาดู อาจจะเลือกมุมมอง หรือตีความในการนำเสนอ แตกต่างกันออกไป และ ตนเองเมื่อตีความแล้ว จึงเห็นว่า เบ้าหลอมของชีวิตมนุษย์นั้น อยู่ ที่สถาบันครอบครัวและสิ่งแวดล้อมพ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกหลาน ก็เป็นอย่างนั้น จึงเอาปรากฏการณ์นี้ มาสะท้อน เข้ากับยุคกับสมัย โดยสะท้อนภาพออกมาเป็นบทภาพยนตร์ และ ต้อง สามารถเล่าเรื่องได้ดี กำหนดทิศทางของภาพยนตร์ ไม่ว่า จะเป็น ดราม่า แอ็คชั่น หรือ ตลกและอื่นๆ ผู้กำกับต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับ โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ และแม้แต่ เด็กเสริฟน้ำที่อยู่ ในกองถ่าย ตนเอง ยังให้โอกาสพูดและแสดงความคิดเห็น ก่อน ที่จะลงมือถ่ายทำจริงจังด้วยซ้ำไป




นอกจากนี้ นายนนทรีย์กล่าวว่า อยากจะ บอกเล่าประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์ไทย และการทำงานที่ผ่านมา มีความยากลำบาก หลายด้าน เช่นปัญหาการเซ็นเซอร์ แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้กำกับภาพยนตร์ ต้องมีจิตใต้สำนึกที่ดี ต่อสังคมที่ดำรงอยู่ และการทำภาพยนตร์เรื่อง จันดารานั้น เป็นดราม่า ไม่ใช่หนังโป๊แน่นอน เพราะใช้งบประมาณ เป็น 40,000,000บาท แต่ ใคร จะทำหนังโป๊ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินขนาดนั้น มีเงินเพียง 200,000-300,000 บาท จ้าง คน 2 คน ถ่าย ทำ ในห้อง ก็ ทำได้แล้ว และแม่แต่เรื่อง นางนาก ที่ทำเป็นภาพยนตร์ เป็น คนทำในลำดับที่ 21 ที่พยายามสะท้อนถึงอานุภาพของความรักที่แท้จริง
#

จัดฝึกอบรมการผลิตสื่อดิจิทัล ในโครงการ “Animation Youth Festival Asia 2010” ที่ภูเก็ต


SIPA ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ จัดการฝึกอบรมการผลิตสื่อดิจิทัล ในโครงการ “Animation Youth Festival Asia 2010” ที่จังหวัดภูเก็ต


เมื่อเช้าวันที่ 16 มิถุนายนนี้ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายเกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์ ผู้ควบคุมโครงการ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมAnimation Youth Festival Asia 2010โดยมีตัวแทนนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงเข้ารับการอบรมจำนวนประมาณ500คนและ การอบรมจะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 18 มิถุนายนนี้และสำหรับการฝึกอบรมในวันแรก นายนนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง เป็นวิทยากร
ทั้งนี้ทางสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA ภายใต้การกำกับของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือกระทรวงไอซีที ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ จัดการฝึกอบรมการผลิตสื่อดิจิทัล (Digital Content) ใน พื้นที่5 จังหวัดทั่วประเทศคือ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น นครราชสีมา เชียงใหม่ และจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นงานภายใต้โครงการ Digital Media Asia 2010 (DMA2010) หรือเป็นโครงการตามแผนปฏิบัติการ ไทยเข้มแข็ง 2552 เพื่อต้องการส่งเสริมและพัฒนาให้คนไทยมีศักยภาพและมีฝีมือด้านสร้างสรรค์สื่อดิจิทัลคอนเทนท์ที่ครอบคลุมทั้งภาพยนตร์ แอนิเมชั่น หรือเกมคอมพิวเตอร์
ในขณะเดียวกัน เพื่อให้ความรู้และพัฒนาทักษะ รวมทั้งให้เกิดการตื่นตัวในงานสร้างสรรค์ด้านนี้ ที่ยังสอดคล้องกับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์โดยสมาพันธ์ฯ มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรมืออาชีพเฉพาะทางให้มีจำนวนเพียงพอป้อนสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวิธีการอันทันสมัย ทั้งในส่วนของการอบรมด้านการผลิต Digital Content, Film, Sound for Digital Content จากคณาจารย์และวิทยากรผู้ชำนาญและมีชื่อเสียงด้านต่างๆเช่น ผู้กำกับภาพยนตร์ นักเขียนบทภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ ที่มีผลงานยอดเยี่ยม

#

จับกุมผู้ต้องหาชาวแคเมอรูนแก๊ง Black Money 2 คนหลอกเจ้าของร้านเทเลอร์ชาวเนปาล ป่าตอง




















ชุดจับกุม สถานีตำรวจภุธรเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวแคเมอรูนแก๊ง Black Money 2 คนหลอกเจ้าของร้านเทเลอร์ชาวเนปาล ที่หาดป่าตอง

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันที่ 16 มิถุนายนนี้ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยกับ พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและชุดจับกุม สถานีตำรวจภุธรเชิงทะเล อำเภอถลาง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายอังเดร เซยานู ( Andre Sieyannou) อายุ 49 ปี สัญชาติแคเมอรูน นายเคนมู (Kenmoue )อายุ 43 ปี สัญชาติแคเมอรูน ในข้อหาฉ้อโกง พร้อมของกลางเป็นกระดาษเปื้อนฝุ่นสีแดง ตัดเป็นแผ่นขนาดเท่าธนบัตรบรรจุอยู่ในกระเป๋าสีเงิน ขวดแก้วบรรจุน้ำยาปิดฝาไว้ด้านบนห่อหุ้มด้วยปูนพลาสเตอร์สีขาว 1 ขวด แผ่นโฆษณาและใบสั่งซื้อน้ำยา จำนวน 2 แผ่น หลักฐานใบโอนเงินที่ผู้ต้องหาโอนเงินไปให้จำนวน 54,000 บาท ของธนาคารกรุงไทยจำกัด ลงวันที่ 5 พฤษภาคม2553 จำนวน 1 ฉบับ สั่งจ่ายผู้หญิง ที่ชื่อศรัญญา เงินสกุลยูโรฉบับละ100ยูโร 1 ฉบับ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ฉบับละ100,20 และ5 ดอลลาร์ จำนวนหนึ่ง


สำหรับการจับกุมคนร้ายแก๊งBlack Money รายนี้ พนักงานสอบสวนในคดี ระบุว่าสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภุธรเชิงทะเล อำเภอถลาง รับแจ้งเหตุจากนายพิเล็ก บูดดี้ ผู้เสียหายชาวเนปาลที่พำนักอยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยเปิดร้านตัดและขายเสื้อผ้าหรือ เทเลอร์อยู่ที่หาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ได้รับการติดต่อจากแก๊งคนร้ายที่เรียกกันว่าแก๊งแบล็คมันนี่เป็นชายผิวดำจำนวน3คนอ้างว่าสามารถทำให้กระดาษที่เคลือบสารเคมีไว้กลายเป็นเงินที่สามารถใช้ได้จริง ตั้งแต่ วันที่ 3 มีนาคม 2553 และคนร้ายดังกล่าวได้สาธิตโดยการนำกระดาษเปื้อนฝุ่นสีแดงที่อยู่ภายในกระเป๋ามาทาด้วยน้ำยาแล้วกลายเป็นธนบัตรสกุลดอลลาร์ฉบับละ100 ดอลล่าร์ จำนวน 5 ใบ และมอบให้ผู้เสียหายจำนวน 2 ใบ


อย่างไรก็ดีเมื่อ นายพิเล็ก บูดดี้ ผู้เสียหายนำไปใช้โดยนำไปแลกเปลี่ยนที่บูธแลกเปลี่ยนเงินตราปรากฏว่าสามารถใช้จ่ายได้จริง ทั้งนี้ เพราะกลุ่มคนร้ายรายนี้ มอบเงินเป็นดอลลาร์ที่จริงอยู่แล้ว เพื่อให้เอาไปใช้และนายพิเล็ก บูดดี้ เกิดตายใจ จึงทำให้เกิดความโลภ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อได้ตกลงจะซื้อน้ำยาเคมีดังกล่าว เป็นเงิน 1 ล้านบาท โดยทางแก๊งคนร้ายระบุว่าในกระเป๋าที่บรรจุกระดาษเปื้อนฝุ่นสีแดงสามารถทำให้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ได้ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาแล้วจะแบ่งให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 15-16 ล้านบาท

ต่อมานายพิเล็ก บูดดี้ ผู้เสียหายผู้เสียหายได้จ่ายเงินสดพร้อมกับโอนเงินผ่านทางธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)รวมเป็นเงินที่จ่ายไปให้แก๊งดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 900,000 บาท หลังจากที่แก๊งคนร้ายจากไปได้มอบกระเป๋าที่บรรจุกระดาษเปื้อนฝุ่นสีแดงและอ้างว่าเมื่อนำสารเคมีมาทางถูจะกลายเป็นธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อทยอยโอนเงินไปให้ปรากฏว่าคนร้ายได้เงียบหายไปโดยอ้างว่าอยู่ระหว่างหาซื้อน้ำยาเคมีอยู่ เพราะน้ำยาเดิมนั้น เริ่มเสื่อมคุณภาพแล้ว


ล่าสุดเมื่อวันที่15 มิถุนายนนี้ ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากแก๊งคนร้ายว่าได้นำน้ำยาเคมีมารอพบอยูที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ทาง พ.ต.ต.ผดุงพงศ์ ดุกสุขแก้ว สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนพร้อมกำลังตำรวจประกอบด้วย ดต.สุวรินทร์ หมวดเมือง ดต.ยะภุป หมานหยะ ดต.อนุชา สุวรรณปำ จสต.ชนาสิน ประทีป ณ ถลาง จสต.ธีรวงศ์ วัตรสังข์ วางแผนบุกเข้าไปในห้องที่ผู้เสียหายนัดพบกับแก๊งคนร้ายเมื่อจู่โจมเข้าไปภายในห้องพบนายอังเดร เซยานู และนายเคนมู ชาวแคเมอรูนทั้งสองคนอยู่กับผู้เสียหาย พร้อมของกลางทั้งหมด โดยเฉพาะกระเป๋าสีเงินและอุปกรณ์ส่วนควบ เพราะผู้ต้องหา กำลัง ทดลองทำตามกรรมวิธี ทำเงินดอลลาร์ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวและสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล แต่ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การปฏิเสธแต่จากพยานหลักฐานต่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าชาวแคเมอรูนทั้งสองคนนี้เป็นคนร้ายแก๊งเดียวกันที่มาหลอกผู้เสียหายจนหลงเชื่อสูญเงินไป900,000บาท

พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า กรณีแก๊งBlack Money นี้ ตำรวจภูธรภูเก็ต เคยจับกุมมาได้ เมื่อประมาณ 10 ปี ที่แล้ว และ ในขณะนี้ เริ่มเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งและโดยเฉพาะแก๊งรายนี้ นอกจากมีผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 2 คน และจากข้อมูลการสืบสวน พบว่า มีคนพัวพันรวมทั้งหมด 6 คน และนายเคนมู (Kenmoue ) อาศัยอยู่กินกับผู้หญิงไทย ย่านซอยนานา กรุงเทพมหานคร และมีลูกด้วยกัน 4 คน และสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ในขณะนี้ ได้ประสานงาน ตำรวจในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อติดตามขยายผลของคดีที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว และเชื่อว่า จะสามารถจับกุม คนร้ายที่ร่วมขบวนการได้ เพราะ มีเส้นทางการโอนเงินของผู้เสียหาย ผ่านธนาคารพาณิชย์ อย่างชัดเจน


#

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จับกุมแก๊งวัยรุ่นหนุ่มสาว4 คน ลักลอบค้ายาไอซ์และยาบ้ารายใหญ่ของภูเก็ต


หน่วยนปส.ภูเก็ตร่วมกับกองกำกับสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตสามารถจับกุมแก๊งวัยรุ่นหนุ่มสาว ลักลอบค่ายาไอซ์และยาบ้ารายใหญ่ของภูเก็ต


เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 9 มิถุนายนนี้ พ.ต.ท.สุทธิรัฐ โทจำปา สารวัตร กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด4 ในฐานะหัวหน้า นปส.ภูเก็ต ประสานกำลังร่วมกับ พ.ต.ต.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล สารวัตรช่วยราชการ กองกำกับสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คนคือนายภูษิต ภูมิสิงห์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/42 หมูที่5 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ,นางสาววราภรณ์ โสวรรณะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/34 หมู่ที่3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ,นายอนุสรณ์ กนกนาค อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/100 หมู่ที่ 4 ตำบล อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และนายนล นาคประสิทธิ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/11 หมู่ที่5 ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจับกุมผู้พัวพันค้ายาเสพติดได้ที่ ซอย 5 หมู่บ้านเจ้าฟ้าการ์เด้นท์ โฮม 5 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ต่อเนื่อง เดอะรอยัลเรสซิเด้นท์ ห้อง 309 เลขที่ 108/90 หมู่ที่5 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จังหวัดภูเก็ตหรือถนนบายพาส ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยยึดของกลาง เป็นยาไอซ์ น้ำหนัก 75.7 กรัม ราคาประมาณ 3 แสนบาท และยาบ้าอีกจำนวน 203 เม็ด จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”


พ.ต.ท.สุทธิรัฐ โทจำปา สารวัตร กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด4 ในฐานะหัวหน้า นปส.ภูเก็ต กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติกรรมจำหน่ายยาไอซ์ และยาบ้า ให้แก่วัยรุ่นและกลุ่มนักท่องราตรีในเมืองภูเก็ตและตำบลป่าตอง มานานแล้ว และกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดจะเปลี่ยนสถานที่พักยาจากโรงแรมหนึ่งไปอีกโรงแรมหนึ่งเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่สงสัยในพฤติกรรมและให้ยากต่อการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ สำหรับยาไอซ์และยาบ้าทั้งหมดทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดซื้อมาจากกรุงเทพมหานคร โดยมีการขนส่งทางเครื่องบิน และทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีผู้ร่วมขวบการที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน


ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะสืบสวนขยายผลและออกหมายจับกุมต่อไป นอกจากนั้นแล้วเครือข่ายยาเสพติดที่จับได้ครั้งนี้เป็นเครือข่ายจำหน่ายยาไอซ์และยาบ้ารายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต เพราะเจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดรถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สุดบัญชีธนาคาร 4 เล่มมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป ในชั้นสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

#

MEET THE DIRECTORS : DARNELL MARTIN > “Cadillac Records” AT THE YAMU PHUKET









































คณะกรรมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 2หรือ Phuket Film Festival 2010จัดกิจกรรม MEET THE DIRECTORS ที่โครงการเดอะยามูภูเก็ตโดยมี DARNELL MARTINผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “Cadillac Records”มาร่วมด้วย




เมื่อค่ำวันที่8 มิถุนายนนี้เวลา18.00น.ที่คลับเฮาส์และเดอะพาวิลเลียนของโครงการเดอะยามูภูเก็ต บ้านยามู หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตทางคณะกรรมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 2หรือ Phuket Film Festival 2010จัดกิจกรรมมีทเดอะไดเรคเตอร์ส( MEET THE DIRECTORS) โดยมี ดาร์แนลมาร์ติน (DARNELL MARTIN) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องคาร์ดิลแลค เรคคอร์ดส( “Cadillac Records”)มาร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลพร้อมกับพบปะสนทนากับแฟนภาพยนตร์และตัวแทนสื่อมวลชน รวมทั้งตอบข้อซักถามหลังจากที่ชมภาพยนตร์จบลงด้วย โดยมีนายสก็อตต์ โรเซ็นเบิร์ก (SCOTT ROSENBERG) กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเอ็ม ดับบลิว อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้รับผิดชอบจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต เป็นผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์ และนายเอียน เฮนรี่( Ian Henry) เจ้าของกิจการและซีอีโอโครงการเดอะยามูภูเก็ต บริษัทแคมป์เบลล์ เคน ( ประเทศไทย) จำกัดและพนักงานในเครือร่วมต้อนรับและอำนวยความสะดวก ในโอกาสเดียวกันนี้ นายนฤนาท สุภัทรประทีป นายอำเภอถลางพร้อมด้วยคณะให้เกียรติมาร่วมงานด้วย อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีฝนตกหนักและลมพัดกระโชกแรง ผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศยังสนใจมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก




สำหรับภาพยนตร์เรื่องคาร์ดิลแลค เรคคอร์ดสนี้ออกฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551มีความยาว 109 นาทีและดาร์แนล มาร์ติน ผู้กำกับสาวลูกครึ่งแอฟริกัน-อเมริกันทำหน้าที่เป็นทั้งผู้เขียนบทภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์ เพราะเธอมีความสนใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการดนตรีมาโดยตลอดและลงมือศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 6 เดือน ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เมืองนิวเจอร์ซี่และเมืองดนตรีอื่นๆในประเทศสหรัฐอเมริก พร้อมกับเลือกบียองเซ่ โนว์เลส(BEYONCE KNOWLES )และเอเดรียน โบรดี้(ADRIEN BRODY) เป็นดาราแสดงนำ นอกจากนี้ยังมีดาราร่วมแสดงอีกหลายคน คือ เจฟฟรีย์ ไรท์ (JEFFREY WRIGHT) โคลัมบัส ชอร์ท( COLUMBUS SHORT) มอส เดฟ.(MOS DEF.) เซดริก ดิเอ็นเทอร์เทนเนอร์(CEDRIC The ENTERTAINER) และแอมโมน วอล์กเกอร์(AMMONN WALKER)



ทั้งนี้ดาร์แนล มาร์ตินมุ่งหวังและต้องการที่จะถ่ายทอดเรื่องราวในตำนานของผู้คนในวงการดนตรีร็อคแอนด์โรลอเมริกันที่เกิดขึ้นจริง โดยหยิบยกกรณีความเป็นไปของสตูดิโอบันทึกแผ่นเสียงเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อ เชสส์ เรคคอร์ด ( CHESS RECORDS ) ที่ตั้งอยู่ด้านตอนใต้ของเมืองชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ และมีเลียวนาร์ด เชสส์ (LEONARD CHESS) เป็น ผู้รับผิดชอบดูแลและจัดการผลิตหรือบันทึกแผ่นเสียง(Records producer) โดยริเริ่มบันทึกดนตรีบลูส์ร่วมกับศิลปิน มัดดี้ วอลเตอร์ส และลิตเติ้ล วอลเตอร์( MUDDY WALTERS –LITTLE WALTER )ตั้งแต่ปี 2490และสามารถผลักดันดนตรีร็อคแอนด์โรลให้เกิดขึ้นได้ในสมัยนั้นหรือในปี 2498 หรือเป็นช่วงที่ ชัค เบอร์รี่ (CHUCK BERRY ) รุ่งเรืองบนโลกดนตรีเป็นเวลาช้านาน



ในขณะที่เลียวนาร์ด เชสส์ มีความรักและความสนใจหรือชื่นชอบงานดนตรีที่หลากหลาย รวมทั้งเชื่อมั่นว่า สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากศิลปินที่มีแววโดดเด่นใหม่ๆ ไม่ว่า จะเป็นคนประพันธ์เพลงอย่าง วิลลี่ ดิกซั่น(Willie Dixon),โฮว์เล่น วูลฟ์( Howlin’ Wolf )และ เอ็ตต้า เจมส์ (Etta James ) ที่บียองเซ่ โนว์เลส เป็นผู้แสดงบทบาทนี้ นอกจากนี้ เลียวนาร์ด เชสส์ โปรดิวเซอร์ยังพยายามดูแลเหล่าศิลปินในสังกัดอย่างดีให้เหมือนกับทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายนักสำหรับเขา เพราะว่าศิลปินบางรายเสพทั้งสุราและยาเสพติดและใช้ชีวิตหรูหราและสะดวกสบาย หรือวิถีชีวิตคนดนตรีกลุ่มนี้ แม้จะ ตื่นเต้นโลดโผน แต่มีความวุ่นวายปั่นป่วนมาแทรกสลับตลอดเพราะมีทั้งเรื่องเซ็กส์,การใช้ความรุนแรงหรือแม้แต่การเหยียดสีผิว โดยเฉพาะในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับชัค เบอร์รี่ เข้าคุก จึงต้องพยายามปั้นเอ็ตต้า เจมส์มาแทนที่ อย่างไรก็ดีในช่วงปลายปี 1960 ประชาชนเริ่มเลิกชื่นชมงานสร้างสรรค์ดนตรีของเชสส์ เรคคอร์ดเพราะมีศิลปินที่กำลังเริ่มมีชื่อเสียงในยุคนั้นคือ เลวิส เพรสลีย์และศิลปินคนอื่นๆ ดังนั้นในฐานะผู้สร้างห้องบันทึกเสียงนี้ เลียว นาร์ด เชสส์ จึงอำลาวงการไปในที่สุด



สำหรับในช่วงท้ายของการสนทนา ดาร์แนล มาร์ติน ได้แนะนำให้ไปชมภาพยนตร์เรื่องฟรายเดย์ คิลเลอร์( FRIDAY KILLER AT CARGO IN LAGUNA ) ที่ ยุทธเลิศ สิปปภาค คนไทยเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มีกำหนดมาพบปะกับแฟนภาพยนตร์ ในการการฉายรอบปฐมทัศน์ของโลกในวันที่ 13 มิถุนายนนี้เวลา18:00 น.ที่ สเตอโรแลป ภูเก็ต หาดสุรินทร์(SteroLab Phuket - Surin Beach) ซึ่งถือว่าเป็นการปิดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 2 ด้วย


#

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Governor of Phuket Province and relevant agencies Pp. PROVINCE explore the problem of landslide risk areas. To prevent the effective


ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ปภ.จังหวัดสำรวจพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหาดินถล่ม เพื่อป้องกันให้มีประสิทธิภาพ


นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากในระยะนี้ จังหวัดภูเก็ตเข้าสู่ฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แล้ว จึงทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมักจะมีปัญหาในเรื่องของดินโคลนถล่ม และล่าสุดเกิดเหตุขึ้นบริเวณ ถนนราชปาทานุสรณ์ ซอยนาใน 1 ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เกิดดินโคลนถล่มหรือสไลด์ทับร่างคนงานพม่า และ ผู้ควบคุมงานคนไทยเสียชีวิตรวม 2 คน เหตุเกิดในระหว่างทำที่กำลังการปรับหน้าดินเพื่อทำกำแพงหรือพนังกันดิน ในขณะที่มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง จังหวัดขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย


สำหรับในช่วงที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตพยายามบอกกล่าวทั้งในส่วนของราชการที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการก่อสร้างบริเวณพื้นที่ซึ่งมีความลาดชันสูง แต่ปรากฏว่ายังมีการฝ่าฝืนแม้จะมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว ไม่ได้มีการปฏิบัติตามที่ได้เขียนไว้ในรายงาน ส่งผลให้ที่ผ่านมามีการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ตำบลป่าตอง ตำบลกะรน และในพื้นที่อำเภอถลาง เป็นต้น ขณะเดียวกันในส่วนของเจ้าหน้าภาครัฐที่กำกับดูแลไม่ได้เอาใจใส่อย่างจริงจัง จำเป็นต้องไปไล่บี้กันต่อไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งกำชับผู้ที่รับผิดชอบไปอีกครั้งหนึ่งรวมทั้งได้ให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตสำรวจพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด เพื่อจะได้วางมาตรการในการป้องกันทีมีประสิทธิภาพต่อไป


นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าปัญหาโคลนดินถล่มหรือดินสไลด์ของจังหวัดภูเก็ตนั้น เคยพูดมาตั้งแต่มารับตำแหน่งใหม่ ๆ แต่ไม่ได้ผล เพราะหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบไม่ได้มีสายบังคับบัญชาขึ้นตรงกับจังหวัด จึงไม่สามารถที่จะให้คุณให้โทษอะไรได้ และยังคงพบการบุกรุกแผ้วถางตัดไม้ทำลายบนเทือกเขาต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อไม้บนภูเขาถูกตัดหมด ทำให้ไม่มีอะไรที่จะยึดหน้าดินไว้ได้ และเมื่อฝนตกลงมามากๆ จะชะล้างหน้าดินลงมาสร้างปัญหาให้กับประชาชนผู้ที่อยู่อาศัยด้านล่าง แต่เจ้าหน้าที่หรือผู้เป็นเจ้าของกิจการกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆอย่างไรก็ตามนอกจากการเฝ้าระวังในพื้นที่แล้ว คงต้องไปตรวจสอบในเรื่องของการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอด้วย เพราะที่ผ่านมาก็เคยสั่งระงับไปหลายโครงการแต่กลับถูกต่อว่าต่อขานว่าไม่สนับสนุนการพัฒนา


ในเรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กล่าวว่าได้มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการ ที่ประกอบไปด้วยนักวิชาการที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะเข้าไปเป็นกรรมการร่วมด้วย แต่ไม่สามารถต้านทานเสียงของกรรมการบางส่วนที่มีบทบาทค่อนข้างมาก และไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่อย่างไร หรือไม่ก็มีการโยนไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเป็นผู้อนุญาตก่อสร้าง ทั้งๆ ที่ในส่วนของกรรมการในฐานะผู้ควบคุมดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมสามารถที่ใช้กฎหมายมาตรา 99 ของ พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อมเข้ามาดำเนินการได้ และหากร่วมมือกันอย่างจริงจังเชื่อว่าปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ ไม่ใช้รอให้เกิดปัญหาแล้วมาหาทางแก้ภายหลัง

#

Hawksbill Sea Turtle In Fish net




บีชการ์ด อบจ.ภูเก็ตพบเต่ากระถูกคลื่นซัด เกยหาดกะตะน้อย แจ้งนักวิชาการประมงนำไปอนุบาล



เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 มิถุนายนนี้นายวิชาญ พิทักษ์กาญจน์ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลหรือบีชการ์ด ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจัดจ้างให้มาประจำพื้นที่ชายหาด ได้พบเต่ากระถูกห่อหุ้มด้วยอวนของชาวประมง ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดที่บริเวณหาดกะตะน้อย บริเวณใกล้โรงแรมกะตะธานี ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน นำไปอนุบาล



นายวิชาญ พิทักษ์กาญจน์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่มาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ในระหว่างที่กำลังเดินตรวจริมชายหาด เพื่อดูความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่กำลังลงเล่นน้ำทะเลอยู่นั้น ได้เห็นเต่า ถูกคลื่นซัดมาติดชายหาด โดยมีอวนประมงพันติดรอบตัว จึงรีบเอาอวนออกจากลำตัวของเต่า เมื่อตรวจสอบพบว่าที่บริเวณขาด้านหน้าขวา มีรอยบาดแผลเนื่องจากถูกอวนบาดจนแผลขนาดใหญ่ และเต่าอยู่ในอาการเครียดและอ่อนเพลีย จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน นำไปอนุบาลต่อไป



เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลหรือบีชการ์ด ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตกล่าวด้วยว่า ในช่วงหน้ามรสุมปีนี้ เต่าที่ขึ้นมาเกยบริเวณดังกล่าวเป็นตัวแรกของปี ส่วนปีที่ผ่านมาพบว่ามีเต่าขึ้นมาเกยหาดกะตะ-กะตะน้อย จำนวนหลายสิบตัว และในจำนวนเกือบทั้งหมดพบว่าติดอวนของชาวประมง เมื่อถูกคลื่นซัด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงลอยมาติดชายหาดดังกล่าว


#

วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Phuket Municipal Improvement closed Sanitary landfill restoration area at Canal ghost










เทศบาลนครภูเก็ตปิดโครงการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะจังหวัดภูเก็ตบริเวณคลองเกาะผี

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตร่วมกับตัวแทนจากบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัดแถลงข่าวปิดโครงการปรับปรุงพื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะจังหวัดภูเก็ต คลองเกาะผี ที่ได้รับงบตามแผนปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตปี 2552 และ ปี 2553 เป็นเงิน43,000,000 บาทเนื่องจากจังหวัดภูเก็ต มีปริมาณขยะวันละกว่า 500 ตันต่อวันและเตาเผาขยะมูลฝอยรับได้เพียง 250 ตันต่อวันเท่านั้นส่วนที่เหลือนำเข้ากำจัดในพื้นที่ฝังกลบ และเดิมระบบฝังกลบใช้งานมาตั้งแต่ปี 2536 ปริมาณขยะที่สะสมอยู่ภายในพื้นที่มากกว่า1,000,000ตันทำให้ระบบบ่อฝังกลบที่มีอยู่เดิม120 ไร่ไม่สามารถรองรับขยะได้เพิ่มก่อให้เกิดผลกระทบจากขยะที่ล้นคันดิน ไม่สามารถจัดการน้ำเสียกลิ่น แมลง จากพื้นที่กำจัดขยะได้

ดังนั้นเทศบาลนครภูเก็ต จึงเสนอของบตามแผนปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อเพิ่มพื้นที่กำจัดขยะ สำหรับรองรับขยะของจังหวัดภูเก็ตและดำเนินการตามมาตรการต่างๆคือเทศบาลนครภูเก็ตได้ว่าจ้าง บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ตามสัญญาจ้างเลขที่ 91/2552 ลงวันที่ 2 เมษายน 2552 เพื่อปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะ เป็นเงินค่าจ้าง 43,000,000.- บาท เป็นระยะเวลา 400 วัน เริ่มสัญญาเมื่อ 2 เมษายน 2552 สิ้นสุดสัญญา 6 พฤษภาคม 2553และในขณะนี้ บริษัทผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วคือการก่อสร้างประกอบด้วยการปรับคันดินปิดบ่อฝังกลบที่ 1, เสริมคันดินบ่อที่ 2 และ บ่อที่ 4 , เสริมคันดินบ่อที่ 3 , ก่อสร้างบ่อฝังกลบที่ 5 ,ก่อสร้างท่อรับน้ำเสีย,บ่อตรวจคุณภาพน้ำ

นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตกล่าวว่าผลตามโครงการปรับปรุงพื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะจังหวัดภูเก็ต คลองเกาะผี ทำให้ศูนย์กำจัดขยะจังหวัดภูเก็ตได้รับการฟื้นฟูพื้นที่ให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นและมีพื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับรองรับขยะได้เพิ่ม 110,000 ตันหรือประมาณ 1 ปี นอกจากนี้เทศบาลนครภูเก็ตยังจัดงบประมาณและอุดหนุนตามโครงการไทยเข้มแข็งปี 2555 สำหรับสร้างระบบสาธารณูปโภคเพิ่มเติม โดยสร้างถนนหินคลุก ถนนแอสฟัลติกคอนกรีตพร้อมรางระบายน้ำ เพิ่มแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าไฮเมท ก่อสร้างสถานที่ล้างรถขยะติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยหรือCCTC รถพ่นละอองจุลินทรีย์และระบบอื่น ๆทั้งนี้จากการบริหารโครงการและปรังปรุงโครงการ ทำให้จังหวัดภูเก็ตมีที่กำจัดขยะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาขยะได้ระยะหนึ่ง ซึ่งยังมีความจำเป็นต้องพัฒนาโครงการกำจัดขยะ โดยการเร่งรัดสร้างเตาเผาขยะเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ฝังกลบให้มีอายุการใช้งานในระยะยาวต่อไป

#

Tap landslide incident Burmese workers and Thai-controlled work and two people died while using heavy equipment to adjust the area. To build walls
















เกิดเหตุดินถล่มทับคนงานชาวพม่าและคนควบคุมงานไทยเสียชีวิตรวม 2 คน ในขณะใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปปรับพื้นที่ เพื่อสร้างผนังหรือกำแพงกันดินถล่ม บริเวณเชิงเขาด้านทิศตะวันออกในพื้นที่ตำบลป่า ตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

เมื่อเวลาประมาณ 13.00น.วันที่ 6 มิถุนายนนี้พนักงานวิทยุสถานี ตำรวจภูธร กะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตรับ แจ้งเหตุ ดิน ถล่ม ลง มา ทับ คน งาน และ คนควบคุมงานไทยรวม 2 คน ที่ กำลัง ขุดปรับ หน้า ดิน บริเวณ เนิน เขา เพื่อ ก่อสร้างผนังหรือกำแพง กัน ดินพัง ภายหลัง รับ แจ้งเหตุแล้ว พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ สารวัตรเวร และเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถจักรยาน ยนต์พร้อม ด้วย เจ้าหน้าที่ มูลนิธิกุศล ธรรมภูเก็ต สาขาป่า ตอง ได้ เดินทาง เข้าไป ตรวจ สอบ ในที่ เกิด เหตุ ที่พบว่าเป็น พื้นที่ เนิน เขาไม้เท้าสิบสอง ต่อเนื่องกับเทือกเขานาคเกิดติดกับถนนราชปาทานุสรณ์ ซอยนา ใน1เขต เทศบาลเมือง ป่าตองอำเภอ กะทู้ จังหวัดภูเก็ตที่กำลัง อยู่ ระหว่าง การ ปรับ หน้า ดิน เพื่อ ทำการ ก่อสร้างผนังหรือกำแพง กัน ดินพัง ของโครงการก่อสร้างโรงแรมของนักธุรกิจไทย ในตัวเมืองภูเก็ตรายหนึ่ง

สำหรับในบริเวณ ที่ เกิด เหตุ มีพี่สาวคนงานพม่าที่เสียชีวิต นั่งร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจและถึงกับเป็นลมหมดสติและเพื่อนคนงานทั้งชาวพม่าและชาวไทยต้องช่วยกันปฐมพยาบาล นอกจากนี้ มีชาวบ้านใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุ เข้ามามุง ดู จำนวนหนึ่งด้วย และพ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ สารวัตรเวรได้เรียกให้วิศรกรควบคุมโครงการ และรักษาการคนควบคุมคนงานและพนักงานที่อยู่ในสำนักงานโครงการก่อสร้าง นำเอกสารข้อมูล เกี่ยวกับ แผนผังโครงการ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไป ให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นโศกนาฏกรรม ที่สำคัญในพื้นที่ท่องเที่ยวหนาแน่น อย่างตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้จาก การ สอบถาม ผู้ เห็น เหตุการณ์ ทราบ ว่า ก่อน ที่ จะ เกิด เหตุ มี กลุ่มคน งานไทยและพม่ากำลัง ทำงาน และ ใช้ รถ แบ็คโฮขุดตักดินบนไหล่เขา เพื่อ ขุด ปรับแต่งหน้า ดิน ให้ เป็น ขั้น บัน ใด ในบริเวณ ที่ เกิด เหตุ ในขณะที่มี ฝน ตกหนักอย่างต่อเนื่องมาหลายวันแล้วรวมทั้งในช่วงที่ฝนกำลังตกอย่างหนักวันนี้คนงานทั้งหมดกำลังทำงานอยู่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ มีการใช้รถปั้นจั่นที่ยกวัสดุก่อสร้างอีก 1 คันด้วยอย่างไรก็ดีใน ขณะ ที่ กำลัง ใช้ รถ แบ็คโฮขุดตักดิน มี กลุ่มคน งาน ทำงาน อยู่ ใน บริเวณ ใกล้ เคียง ด้วยหลังจาก นั้น ได้ เกิด เหตุมีดินที่ด้านตอนบน รถถล่มลง มา ทับ ร่าง ของ คน งานพม่า 1 คน และ คนควบคุมงานคนไทยอีก 1 คนที่อยู่ใกล้รถแบ็คโฮมากที่สุด และเพื่อนคนงานช่วย กัน ค้นหาใน เบื้องต้น สามารถ ช่วยนาย ทวี ศักดิ์ หนู แก้ว อายุ 45 ปี คนควบคุมงาน อยู่บ้านเลขที่ 19/3 หมู่ที่ 2 ตำบลถ้ำ อำเภอตะกั่วทุ่งจังหวัดพังงา ขึ้น มา ได้ และ นำ ส่ง โรง พยาบาล ป่า ตองแต่เสีย ชีวิต ใน เวลา ต่อ มา พร้อมกันนี้ คนงานที่เหลืออยู่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต สาขาป่าตองยังช่วยกันค้นหาต่อเนื่อง จนพบศพ นาย หนึ่ง คนงานชาว พม่าอายุ35 ปี เสีย ชีวิต ฝังอยู่ในหลุมดินที่มีดินโคลนฝังกลบอยู่ ในสถานที่เกิด เหตุ จึง นำ ศพ ส่งไปเก็บไว้ ที่โรงเก็บ โรง พยาบาล ป่า ตอง

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ14.30น.นายชัย รัตน์ สุขบาล รอง นายกเทศ มนตรี เทศบาล เมืองป่า ตอง พร้อม ด้วย เจ้าหน้าที่เทศกิจ เดินทาง เข้าไป ตรวจ สอบ สถานที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมและสอบถามข้อมูลผู้บาด เจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลป่าตอง ในเบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นสืบ เนื่องจาก ใน พื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พาดผ่านเข้าปกคลุม และมีฝนตกหนัก ติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง กัน มา 2-3 วัน แล้ว จึงส่ง ผล ให้เกิด ดิน ถล่ม บริเวณถนนราชปาทานุสรณ์ ซอย นา ใน 1 ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองป่า ตอง ที่เจ้าของโครงการ กำลังให้คนงานสร้างโครงการทำ ผนังหรือกำแพง กัน ดินพังของโรงแรม แห่ง หนึ่ง และในเบื้องต้น ได้รับ รายงาน ว่า มี ผู้ เสีย ชีวิต 2 คน เป็น คนควบคุมงานไทย 1 คนและ คน งาน พม่า อีก 1 คน และมี การนำ ตัว ส่ง โรง พยาบาล ป่า ตองเรียบร้อย แล้ว

รอง นายกเทศ มนตรี เทศบาล เมือง ป่า ตองกล่าวด้วยว่าอุบัติเหตุรายนี้ เกิด ขึ้น ใน ระหว่าง ที่ คน งานกำลัง ทำ กำแพง กัน ดิน และ ใน ขณะ นั้นมี ฝน ตกลง มา ตลอด เวลา ทำให้ ดิน ด้าน บนที่เป็นพื้นที่ลาดชันสูงและ อุ้มน้ำ ไหลถล่ม ลง มา ทับ คนเสียชีวิต ล่าสุดทราบว่า นายเปี่ยน กี่สิ้นนายกเทศ มนตรี เมือง ป่า ตอง ได้สั่ง ให้ ระงับ การ ก่อสร้าง ไว้ ก่อน เพื่อ ทำการ ตรวจ สอบ อีก ครั้ง หนึ่ง ว่า โครงการ ดัง กล่าว ได้ มี การดำเนิน การ ตาม ที่ ได้ มี การ จัด ทำ รายงาน ผล กระทบ สิ่งแวดล้อม หรือ ไม่ อย่างไรและหาก ทำ ตาม ที่ มีการ เขียน รายงาน ไว้ ก็ คง ไม่มี ปัญหา

#

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรือนจำจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 7


กรมราชทัณฑ์มอบหมายให้เรือนจำจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 4-13 มิถุนายนนี้ที่เวทีกลางสะพานหิน


เมื่อค่ำวันที่ 4 มิถุนายนนี้ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 7 ที่กำหนดจัดขึ้นต่อเนื่องจนถึงวันที่13 มิถุนายนนี้ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00น.โดยมีเรือนจำและทัณฑสถานในพื้นที่เขต 8 และเขต 9 ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้รวม 23 แห่งร่วมกันนำผลิตภัณฑ์ ที่เป็นผลงานที่เกิดจากการอบรมและฝึกวิชาชีพที่ผลิตโดยฝีมือผู้ต้องขังทั้งชายและหญิง ที่มีความคงทน ประณีต สวยงามคุณภาพดี หลากหลายรูปแบบ มีราคาประหยัด มาจัดแสดงและจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีการจัดประกวดผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ และเรือนจำหรือทัณฑสถานที่ชนะการประกวดได้รับประกาศเกียรติคุณบัตรจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในโอกาสเดียวกันนี้ทางคณะกรรมการจัดงานยังประสานงานให้กลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นทูตวัฒนธรรมเมืองภูเก็ต มาร่วมแสดงศิลปวัฒนธรรมและร้องเพลง บนเวที สลับกับการแสดงของศิลปินหรือวงดนตรีต่างๆในภาคใต้ตลอดงานด้วย


นายไพศาล สุวรรณรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่ากรมราชทัณฑ์ มอบหมายให้เรือนจำจังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าภาพจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 7 โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ภารกิจและนำผลิตภัณฑ์ด้านการฝึกวิชาชีพสาขาต่างๆของเรือนจำและทัณฑสถาน ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมภายนอก พร้อมกันนี้ ต้องการให้ประชาชนโดยทั่วไป มีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ที่ผู้ต้องขังใช้ฝีมือผลิตขึ้นด้วยตนเอง ที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช


นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่ากรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมมีพันธกิจที่สำคัญคือการแก้ไขพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง และมุ่งพัฒนาเป็นองค์กรพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขัง ให้กลับตนเป็นพลเมืองดี มีสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจที่ดี ไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำ ได้รับการพัฒนาทักษะ ฝีมือ ในการประกอบอาชีพที่สุดจริตและสามารถดำเนินชีวิตในสังคมภายนอกได้อย่างปกติ และสังคมให้การยอมรับ ตามปณิธานของกรมราชทัณฑ์ ที่จะ “ คืนคนดี มีฝีมือ สู่สังคม” สำหรับนโยบายที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ คือการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช มาพัฒนาเรือนจำและและทัณฑสถาน ให้เป็นองค์กรแห่งความพอเพียง โดยนำกรอบ แนวคิดนี้ มาประยุกต์ใช้ ทั้งในส่วนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ต้องขัง มีการสนับสนุนให้ทุกฝ่าย รู้จักประมาณตน มีความประหยัด อดออม มีคุณธรรม จริยธรรมและมีความซื่อสัตย์สุจริต


อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวด้วยว่าเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ฝึกอบรมวิชาชีพต่างๆ เป็นการให้โอกาสแก่ให้ผู้ต้องขัง จนมีการพัฒนา ความรู้ ความสามารถและทักษะและมีฝีมือ จนสามารถนำเสนอผลงานผลิตภัณฑ์ต่อสาธารณชน มาอย่างต่อเนื่อง 20 กว่าปีแล้วทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่เป็นความภาคภูมิใจทั้งเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์และ ผู้ต้องขังเอง และการจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 7ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อมีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยหรือเดินชมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ เป็นความรู้สึกที่ดีจากประชาชน ที่อยู่นอกเรือนจำ ทุกฝ่ายมีความดีใจและภาคภูมิใจเช่นเดียวกัน ที่สังคม ยังยอมรับผลงานของผู้ต้องขัง สำหรับรายได้ส่วนหนึ่ง ที่มอบให้กับผู้ต้องขัง เป็นประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษไปแล้ว สามารถนำความรู้ต่างๆไปใช้ประกอบอาชีพที่มั่นคงได้


นอกจากนี้ทางกรมราชทัณฑ์ มอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงที่จังหวัดภูเก็ต เพราะพิจารณาเห็นว่า เป็นเมืองนานาชาติและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและชาวต่างประเทศที่มีถิ่นพำนักในภูเก็ต สามารถ มาชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นจุดประสงค์สำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่กรมราชทัณฑ์ มุ่งหวังให้ผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ก้าวสู่สากล อย่างที่ตั้งความหวังเอาไว้


สำหรับงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 7ทางเรือนจำและ ทัณฑสถานมาร่วมออกร้านและจัดนิทรรศการมากถึง 95 บูธ ส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้, เฟอร์นิเจอร์หวาย รวมทั้งผลิตภัณฑ์งานรากไม้ เครื่องใช้ในครัวเรือน ในขณะที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตนั้น มีผลิตภัณฑ์ชุดรับแขกไม้ , ตู้ใส่เสื้อผ้า ,เตียงไม้ขากลึง, ซุ้มอเนกประสงค์และชุดโต๊ะเก้าอี้สนามส่วนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ค้าจังหวัดภูเก็ตหรือ WE GROUPจะเข้าร่วมออกบูธเป็นอาหารและเครื่องดื่ม 60ราย และสินค้าประเภทอื่นๆอีก 50รายและสมาชิกทั้งหมด ยินดีจะมอบคูปองอาหารและเครื่องดื่มและสินค้าต่างๆมีมูลค่ารวม 500 บาทต่อบูธเพื่อเป็นการคืนกำไรสำหรับประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว ที่มาร่วมเล่นเกมบนเวที สามารถใช้แทนเงินสด 50-100 บาท ในการเลือกซื้ออาหาร เครื่องดื่มและสินค้าภายในงานเป็นประจำทุกวัน

#

คู่แต่งงานและฮันนีมูนชาวอินเดียประมาณ 400คู่ เตรียมจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่จังหวัดภูเก็ต

















นางสาววรรณประภา สุขสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต”ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้นที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อเร็วๆนี้ว่าทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ตได้รับการประสานจาก นายเศรษฐพันธ์ พุทธานี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานมุมไบ ประเทศอินเดียและบริษัทนำเที่ยวในท้องถิ่นเมืองมุมไบ ในการนำคณะคู่แต่งงานและฮันนีมูนชาวอินเดียจำนวนประมาณ 400คู่ เพื่อมาจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่ จังหวัดภูเก็ตและในขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเพื่อหาสถานที่จัดงานและโรงแรมที่พัก


สำหรับการเข้ามาของคณะคู่แต่งงานและฮันนีมูนชาวอินเดียนี้แล้ว แน่นอนว่ายังมีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวติดตามมาด้วย และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับจังหวัดภูเก็ตในช่วงที่มีการจัดงานไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และเท่าที่มีการประสานทราบว่าจะเดินทางเข้ามาในช่วงกรีนซีซั่นนี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกทางหนึ่งและทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงนี้ของจังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น สำหรับความชัดเจนของมหกรรมเฉลิมฉลอง มงคลสมรสของชาวอินเดีย ว่าจะจัดขึ้นวันเวลาและสถานที่ใด ผู้เกี่ยวข้องจะแจ้งให้ทราบภายในเดือนมิถุนายนนี้


นอกจากนี้ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวด้วยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียถือเป็นตลาดใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ประกอบกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดสำนักงานการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นที่เมืองมุมไบ เป็นแห่งที่ 2หลังจากประสบความสำเร็จ เปิด สำนักงาน ที่กรุงเดลลี มาแล้ว และสำหรับเมืองมุมไบเป็นเมืองเศรษฐกิจ ประชากร มีกำลังซื้อสูง จึงส่งผลให้ภูเก็ตกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ประกอบกับ เส้นทางบินจากอินเดีย-ภูเก็ต ยังสะดวกและรวดเร็ว


ทั้งนี้ที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมาเคยมีนักท่องเที่ยวอินเดียได้เดินทางมาจัดงานแต่งงานที่จังหวัดภูเก็ตแล้วหลายคู่ โดยเฉพาะคู่แต่งงาน ที่ฝ่ายเจ้าบ่าว เป็นทายาทของเจ้าของกิจการโรงงานถลุงเหล็ก มีการเช่าเหมาลำเครื่องบิน จากอินเดีย มาสู่ภูเก็ต และยัง ปิดโรงแรมระดับ 5 ดาวเพื่อประกอบพิธีมงคลสมรส ตามธรรมเนียมอินเดีย และในช่วงดังกล่าว มี ตัวแทน สื่อสารมวลชนทุกแขนงอินเดียติดตามมารายงานข่าวด้วย ดังนั้นเมื่อมีการนำเสนอภาพข่าวนี้เหล่าออกไป ควบคู่กับเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามทั้งบนบกและในทะเล ทั้งในจังหวัดภูเก็ตพังงาและจังหวัดกระบี่ จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวอินเดียสนใจที่จะมีจัดงานแต่งงานและฮันนิมูนที่ภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย


พร้อมกันนี้ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ตกล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำรวจข้อมูล ในเมืองท่องเที่ยวหลัก ทั่วประเทศเช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และกรุงเทพมหานครรวมทั้งที่จังหวัดภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โรแมนติก และได้ถูก กำหนดให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว 100 สถานที่บอกรัก และ 20 สถานที่ขอแต่งงาน ด้วยเหตุผลนี้ ส่งผลทำให้ภูเก็ตได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และอีกหลายประเทศ เช่น เกาหลีและญี่ปุ่น เป็นต้น ที่จะเข้ามาจัดงานแต่งงานและฮันนีมูน ดังนั้นตลาดแต่งงานและฮันนีมูนของภูเก็ตจึงเป็นตลาดเฉพาะที่น่าสนใจอีกตลาดหนึ่ง นอกเหนือจากการเป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความสวยงาม


สำหรับแหล่งท่องเที่ยว 100 สถานที่บอกรัก ของจังหวัดภูเก็ต มีด้วยกันหลายจุด เช่น แหลมพรหมเทพ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ,หาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง ,ร้านหนังสือ 2521 บริเวณย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ต ถนนถลาง, ร้านอาหารดีบุก อำเภอเมืองภูเก็ต ,ร้านไวท์บ็อกซ์เรสเตอร์รอง หาดกะหลิม ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ส่วนทางด้าน 20 สถานที่ขอแต่งงานได้แก่ บนเรือทวินปาล์ม กับ โรงแรมศรีพันวารีสอร์ท ตำบลวิช ิต อำเภอเมืองภูเก็ต

#